วิธีทำ Numbered Page Navigation : ใส่เลขหน้าให้กับบล็อก

เมื่อบล็อกของเรามีจำนวนบทความที่มาก เท่ากับว่าบล็อกของเราก็จะมีการแสดงผลหลายหน้า การใส่เลขหน้าให้กับบล็อก ก็สะดวกกับผู้อ่านในกรณีที่ต้องการย้อนไปอ่านบทความที่เก่ากว่า หรือ บทความล่าสุด แต่ในเทมเพลตบล็อกส่วนใหญ่ มักไม่ปรับให้มีการแสดงผลเป็นเลขหน้า บทความนี้จึงขอเสนอ วิธีการใส่เลขหน้าให้กับบล็อกหรือ "การทำ Numbered Page Navigation"

หากใครยังนึกไม่ออกว่า การใส่เลขหน้าให้กับบล็อกหรือการทำ Numbered Page Navigation มันเป็นยังไง ขออธิบายง่ายๆได้ดังภาพด้านล่าง

วิธีลบบล็อก และกู้คืนบล็อก

หากเรามีบล็อกมากเกินไป ไม่ได้ใช้ และต้องการจะลบมันก็สามารถทำได้โดยการ Delete Blog   ซึ่งเมื่อเรากดลบไปแล้ว มันก็ยังไม่ได้ถูกลบไปซะทีเดียว การกดลบในที่นี้ คล้ายๆกับการระงับการใช้ชั่วคราว หากภายใน 90 วัน เราไม่ทำการ undelete มันก็จะถูกจากระบบลบไปอย่างถาวร

ตั้งค่า Comment Moderation : ตรวจสอบคอมเม้นท์ก่อนถูกโพส

Comment Moderation คือการตั้งค่าให้ความคิดเห็นต่างๆที่ถูกโพสบนบล็อก จะยังไม่แสดงผลหรือเผยแพร่ในทันทีที่โพส แต่ต้องรอการอนุมัติจากเจ้าของบล็อกเสียก่อน

Comment Moderation มีประโยชน์ยังไง?
เมื่อเราเขียนบทความอะไรซักอย่าง เราย่อมต่องการปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้อ่าน ซึ่งการแสดงความคิดเห็นหรือการ Comment ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ปัจจุบัน การเปิดให้ผู้อ่านแสดงความคิดเห็นบนบล็อกได้โดยอิสระ ก็กลายเป็นการเปิดช่องทางให้ผู้อื่นเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์เล็กๆไปในตัว ที่พบได้บ่อยมากก็พวก  SPAM อธิบายง่ายๆก็คือ คอมแม้นท์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา โปรโมทสินค้าหรือเว็ปไซต์ และโพสข้อความซ้ำๆกัน

 

ตัวอย่าง comment ที่เป็น SPAM

 

 

 

จะเห็นได้ว่า comment ประเภทนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบทบล็อกเลย ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหานี้Blogger/Blogspot จึงมีออฟชั่นกำหนดให้เจ้าของบล็อกสามารถตั้งให้อ่านคอมเม้นท์ได้ก่อนเผยแพร่บนบล็อก เมื่อเจ้าของบล็อกได้อ่านความคิดเห็น ก็มีสิทธิ์ตัดสินใจได้ว่า ความคิดเห็นนั้นๆสมควรจะลบทิ้งหรือเผยแพร่นั่นเอง

Adsense Converter ตัวช่วยแปลง code adsense

เทคนิคแสดง Google Adsense เฉพาะในหน้าแรก

สำหรับ Blogspot แล้ว เราสามารถที่จะกำหนดให้ Adsense แสดงในเฉพาะหน้าแรก หรือหน้าที่เป็นเฉพาะเนื้อหา บทความ บางคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนั้น ให้มันแสดง Adsense ทุกหน้าก็ดีออก แต่เหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เนื่องมาจาก ด้วยข้อกำหนดของทาง Google Adsense เอง ที่ไม่อนุญาตให้แสดงโฆษณาได้มากเกินกว่าที่กำหนด และอีกประการหนึงก็คือ เรื่องความสวยงาม เพราะถ้าหากมีโฆษณาเยอะไปหมด บล็อกของเราก็คงดูไม่ดีแน่

ในส่วนนี้จะขอพูดถึงวิธีแสดง Adsense เฉพาะในหน้าแรกของบล็อกเท่านั้น ซึ่งวิธีนี้มีประโยชน์สำหรับการนำไปประยุกต์ใช้กับอย่างอื่นได้ด้วย เช่น ใช้กำหนดให้รูปภาพแสดงเฉพาะในหน้าแรก หรือ กำหนดให้ Script บางตัว ทำงานเฉพาะในหน้าแรกของบล็อกเท่านั้น

<b:if cond='data:blog.pageType != &quot;item&quot;'>
ใส่โค๊ต Google Adsense ที่นี่
</b:if>

2 วิธี ใส่ Adsense Ads ลงในบทความ สำหรับ Blogger/Blogspot

การใส่ Adsense ลงในบทความ เป็นการแทรกโฆษณาลงไปในบทความ โฆษณาจะปรากฏด้านข้าง หรือ แล้วแต่ที่เรากำหนด การใส่ Adsense ลงไปในบทความนั้นทำได้ไม่ยาก ประกอบด้วย 2 อย่าง คือ 1)บทความ 2)โค๊ดโฆษณา นั่นหมายความว่า คุณต้องมีเนื้อหาที่จะเขียน และก็ต้องมีไอดีที่สมัคร Adsense ถึงจะได้ code Adsense มา


วิธีใส่ Adsense ลงในแต่บทความสามารถทำได้ 2วิธี คือ
1. การแทรกcode Adsense Ads ในหน้าที่พิมพ์บทความ (Posting)
2. การใส่code Adsense Ads ลงใน Template


วิธีที่ 1 จะต่างกับ วิธีที่ 2 ตรงที่ วิธีที่ 1 คุณอาจจะต้องใส่codeโฆษณาลงไปทุกๆครั้งที่คุณพิมพ์บทความ หรือแล้วแต่ความต้องการ แต่คุณสามารถเลือกได้ว่า บล็อกหน้าไหน ตรงไหน ที่จะมีโฆษณา ส่วนวิธีที่ 2 แค่ใส่codeลงไปใน Template ครั้งเดียวแล้วโฆษณาจะปรากฏในทุกๆโพสบทความ วิธีนี้สามารถนำไปประยุกษ์ใช้กับการใส่ Adsense Ads ใน Template เพื่อแสดงโฆษณาในตำแหน่งอื่นได้ด้วย

เปลี่ยนคำว่า Read More ให้เป็นรูปภาพ

ปกติแล้ว Read More จะเป็นแบบตัวอักษร ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนมันเป็นคำอื่น เช่น "อ่านต่อ" หรืออะไรก็ได้ที่เราต้องการ รวมถึงเปลี่ยนมันเป็นรูปภาพ เพื่อความสวยงาม และสะดุดตา

วิธีเปลี่ยนคำว่า Read More เป็นรูปภาพ

(How to replace read more text with image)

1) ไปที่ layout > Edit HTML กด Expand Widget Templates

2) กด (Ctrl+F) หาคำว่า read more , more , full story ตัวใดตัวหนึ่ง (ขึ้นอยู่กับ Template ของแต่ละคน)

3) เมื่อเจอแล้ว แปะโค๊ตนี้ทับลงไป (วางทับของเก่า)

<img src='image link URL'/>

ตัวสีแดงคือ ลิงค์รูปที่ต้องเปลี่ยน คือ ใส่ URL ของรูปที่ต้องการลงไป จะเป็นรูปอะไรก็ได้ แต่ขนาดควรไม่ใหญ่จนเกินไป

ใส่ Read More อัตโนมัติพร้อมรูปภาพ

การใส่ Read More อัตโนมัติพร้อมรูปภาพ (Auto Read More with Thumbnails) คือ การทำ Read More แบบอัตโนมัติ โดยที่ระบบจะทำการตัดข้อความ ตามจำนวนอักษรที่เราได้กำหนดไว้ เราไม่ต้องมานั่งใส่ read more ทุกบทความที่เราเขียน นอกจากนี้ยังมีการดึงรูปภาพในบทความนั้นมาประกอบด้วย โดยที่เราสามารถกำหนดขนาดรูปภาพได้ หากนึกไม่ออกว่ามันเป็นยังไง นี่คือรูปตัวอย่าง

AutoHide Social Bookmark for Blogger

อย่างที่เราๆรู้กันดีกว่า Social Bookmark ก็คือตัวช่วยอย่างหนึ่งที่ช่วยโปรโมทบล็อกของเรา ให้เป็นที่รู้จัก คล้ายๆการบอกผ่านต่อๆกันไปเรื่อยๆ จนขยายเป็นวงกว้าง เพราะฉะนั้น การมี Social Bookmark ไว้ในบล็อกจึงถือเป็นเรื่องจำเป็นมาก วันนี้เราจึงขอนำเสนอ AutoHide Social Bookmark  ที่มีความสวยงามและมีลูกเล่น คือ เมื่อเอาเอาเม้าท์ไปวางบนไอค่อนที่เราต้องการ มันก็จะโชว์ขึ้นมาให้เห็น ออกแนวๆผลุบๆโผล่ๆ แบบนี้ (จิ้มที่รูป)

เพิ่ม Read More ใน Blogger Template

Read More หรือ อ่านต่อ เป็นการตัดแบ่งบทความที่ยาวๆในหน้าแรกของบล็อกให้สั้นลง เมื่อผู้อ่านสนใจอ่านต่อก็จะกดเข้าไปอ่าน ง่ายๆก็คือ หากบทความของเรายาวมากๆ มันคงจะไม่สวยแน่ๆ ถ้าหน้าแรกบล็อกมีบทความยาวยืดเต็มไปหมด Read More จึงเกิดมาเพื่อสิ่งนี้

การเพิ่ม Read More ในที่นี้ คือการ เพิ่มโค๊ตเข้าไปใน Template เพื่อแสดงคำว่า Read More ให้เห็นในหน้าแรก เพราะบางที Template ที่เราได้โหลดมา อาจจะไม่มีโค๊ตในส่วนนี้มาให้ แม้ระบบจำทำการตัดข้อความให้แล้ว แต่ก็จะไม่ปรากฏคำว่า "อ่านต่อ" หรือ "Read More" ให้เห็น  เพราะฉะนั้นหากผู้อ่านต้องการจะกดเข้าไปอ่านข้อความ จึงทำได้ยาก นอกจากคลิกที่หัวข้อบทความ แต่มันจะไม่ง่ายและสะดวกกว่าหรือ ถ้ามีคำว่า Read More / อ่านต่อ ให้เห็น จะๆ

ฉะนั้นหากคุณกำลังประสบปัญหา หน้าแรกไม่มีคำว่า "Read More" จงทำตามที่ข้าพเจ้าบอก ดังนี้

ไปที่ Design > Layout > Edit HTML กด Expand Widget Template และหาค้นหาโค๊ตนี้ <data:post.body/> ( จะอยู่แถวๆ <div class='post-body entry-content'> ) เมื่อพบแล้ว ให้เพิ่มโค๊ตสีแดงข้างล่างต่อท้าย จะได้เป็นแบบนี้

<b:if cond='data:blog.pageType != "item"'><br /> <a expr:href='data:post.url'>Read more!</a> </b:if><data:post.body/>

ส่วนคำว่า Read More! สามารถแก้ได้ตามใจชอบ จะเปลี่ยนเป็นคำว่า "อ่านต่อสิจ๊ะ" ก็ได้แล้วแต่เรา

นอกจาก Read More แบบ บ้านๆนี้แล้ว Read More ก็ยังมีแบบสวยๆ คือ Auto Read More โดยระบจะทำการตัดข้อความให้อัตโนมัติ เราแค่กำหนดจำนวนตัวอักษรที่จะให้โชว์ในแต่ละบทความเท่านั้น ระบบก็จะตัดข้อความให้อัติโนมัติทันที ท่านสามารถอ่านได้ในหัวข้อ ใส่ Read More อัตโนมัติ พร้อมรูปภาพ

วิธีซ่อนและลบ Blogger Navigation Bar

หากเราใช้ธีมของ  Blogger จะเห็นว่า ด้านบนของบล็อกจะมี Blogger Navigation Bar อยู่ มีไว้เพื่อช่วยในการค้นหาบล็อก หรือ ล็อกอินเข้าสู่ระบบ ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่ และขัดต่อสายตาชาวเราเป็นอย่างมาก วันนี้จึงจะขอเสนอวิธีการซ่อนและลบ Blogger Navigation Bar หรือเรียกสั้นๆว่า Blogger Navbar

Blogger Navigation Bar มี2 ประเภท คือ แบบที่มาพร้อมกับ Template แบบเก่า กับแบบที่มากับ Template Designer หรือแบบใหม่

วิธี Backup บทความ Export blog สำหรับ Blogger

การ Backup บทความ (Export blog) คือ การ ทำไฟล์ข้อมูลสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ไฟล์นี้จะถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของเรา หรือที่ไหนก็แล้วแต่ที่เราเซฟไฟล์ไว้ 

การ Backup บทความ (Export blog) สำคัญมากสำหรับคนทำบล็อก ในยามที่ต้องการจะย้ายข้อมูลจากบล็อกเก่าไปยังบล็อกใหม่ หรือข้อมูลบทความหาย  การBackupบทความ ก็เหมือนเป็นการสำรองข้อมูลในส่วนที่เป็นบทความ และรวมถึงคอมเม้นท์ในบทความนั้นๆเก็บไว้ด้วย ซึ่งไม่เกี่ยวกับการ Backup ส่วนที่เป็น Template (วิธี Backup / Restore Blogger Template/Layout) 

การติดตั้ง Related Posts โดยใช้ Script จาก brps.appspot.com

ในบทความที่แล้วเราได้เขียนถึง การใส่ Related Posts ให้กับบล็อกด้วย Linkwithin ไปแล้ว ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ง่ายมากๆ ไม่มีข้อห้ามจุกจิก วันนี้เราจะเขียนถึง การใส่ Related Posts ให้กับบล็อก โดยใช้ Script จาก brps.appspot.com ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่หลายคนนิยม เพราะสามารถ Add Widget ก็ได้ แต่จะเป็นการใส่ Related Posts ที่ Sidebar (แถบด้านข้าง) ปกติแล้ว Related Post จะอยู่ใต้บทความ แต่ในกรณีนี้ มันจะอยู่ที่ด้านข้างแทน แต่ถ้าใครไม่ชอบก็สามารถนำโค๊ดไปใส่เอง ซึ่งอย่างหลังเราจะสามารถระบุตำแหน่งที่จะให้แสดง Related Posts ได้ถูกใจกว่า เช่น ใส่ไว้ใต้บทความ เป็นต้น

การแสดงผลของ brps จะเป็นในรูปแบบ หัวข้อบทความ ต่อให้บทความของเรามีรูปภาพ Related Posts ที่ได้ ก็จะเป็นหัวข้อบทความเท่านั้น หลายคนจะชอบแบบนี้มากกว่า ซึ่งจะต่างกับ Related Posts ของ Linkwithin

ใส่ Related Posts ให้กับบล็อก ด้วย Linkwithin

Related Posts คืออะไร แปลตรงๆก็คือ โพสส์ที่เกี่ยวข้องกัน มีเนื้อหาและหัวข้อเกี่ยวเนื่องกัน เพราะคุณอาจจะไม่ได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงบทความเดียว อาจจะมีบทความอื่นๆที่คุณเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เป็นได้ การทำ Related Posts ก็เพื่อแสดงให้ผู้อ่านเห็นว่า ยังมีบทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆอีกนะ

ข้อดีโดยสรุป ก็คือ
1. ทำให้คนอ่านไม่รีบปิดหน้าบล็อกไปเสียก่อน เพราะเมื่ออ่านบทความหนึ่งจบแล้วก็อาจไปอ่านอีกบทความหนึ่งที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องต่อไปอีก
2. เป็นการเพิ่มค่าสถิติให้กับบล็อก อาทิเช่น ยอด Page Views ฯลฯ
3. ความสวยงาม มีไว้เสียหน่อยก็สวยไปอีกแบบ บล็อกจะได้ไม่โล่ง (เห่อ)

ปกติแล้วเมื่อเราสร้างบล็อกขึ้นมารูปแบบบล็อกที่ได้ก็จะไม่มี Related Posts มาให้  หากเราต้องการบล็อก Related Posts เราก็ต้องติดตั้งมันเอง ซึ่งมีผู้ที่คิดค้นสคิปออกมามากมายหลายรูปแบบ ในที่นี้เราจะพูดถึงวิธี ใส่ Related Posts ให้กับบล็อก ด้วย Linkwithin

วิธี Backup / Restore Blogger Template/Layout

Backup Template คือ การ Download รูปแบบหน้าตาบล็อก หรือที่เรียกกันว่า Template ของเรามาเก็บไว้ยังเครื่อง ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเก็บข้อมูลในส่วนที่เป็นบทความนะ (ถ้าอยากรู้อ่านต่อที่หัวข้อ : วิธี Backup บทความ)

ส่วนการ Restore Template ก็ต่อเนื่องจากการ Backup คือเอาไฟล์ที่ Download เก็บไว้ Upload กลับไปไว้ที่บล็อก หรืออีกในหนึ่ง หากเรามี Template อยู่แล้ว จะไปโหลดมาหรือทำเอง ก็ Upload เพื่อเปลี่ยนหน้าตาบล็อกนั่นเอง
 

ทีนี้มาถึงเหตุผลที่ว่า เหตุใดเราควรจะ Backup Template ?

วิธีใส่ Read more ง่ายๆ

หากโพสแต่ละโพสในบล็อกของคุณ มีจำนวนเนื้อหามากมายมหาศาล มันคงจะไม่เป็นการดีต่อหน้าตาบล็อกของคุณเป็นแน่แท้ หากยิ่งเพื่อนๆของคุณเปิดบล็อกขึ้นมาและพบกับเนื้อหาที่ยืดยาวเต็มไปหมด แถมคุณโพสรูปประกอบเนื้อหาไว้อย่างเยอะ ก็เสียงต่อการที่หน้าเว็ปอาจะโหลดช้าเป็นได้ แถมมันดูไม่น่าอ่านอีก

แต่ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณใส่ "Read more" หรือ "อ่านต่อ"   เพราะเมื่อผู้อ่านสนใจที่จะอ่านเนื้อหาส่วนที่เหลือ ผู้อ่านก็จะกดเข้าไปอ่านเอง อีกทั้งวิธีนี้ยังช่วยให้บล็อกของคุณดูดีมีสกุลขึ้นอีกเป็นกอง